บทความนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของ ‘ฟิล์มกรองแสงรถยนต์’ หนึ่งในรายการของแถมที่น้องเซลล์ (มัก) จะยื่นข้อเสนอมาให้เวลาเราซื้อรถใหม่ครับ ฟิล์มกรองแสงที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ฟิลม์แบบไหนก็เหมือนกันทำให้ว่าที่เจ้าของรถใหม่หลายคนคิดว่าจะใช้แบบไหนก็ได้หรือไม่ได้ใส่ใจมาก ขอแค่แถมมาเถอะ! เพราะจะได้ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา ไม่ต้องออกไปหาศูนย์ติดฟิล์มข้างนอกอีก เรียกว่าวันรับรถพร้อมใช้
แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พอขึ้นชื่อว่าเป็นของแถมก็มักจะแลกมาด้วยประสิทธิภาพที่ไม่เต็มที่ ในช่วงแรกของการใช้งานอาจจะไม่มีปัญหากวนใจ แต่พอใช้งานผ่านไป 6 เดือน – 1 ปี ทีนี้ละความทรมานเริ่มมาเยือน เพราะฟิล์มกรองแสงที่แถมมาให้ (แบบที่เราไม่รู้ที่มาที่ไป) เริ่มออกอาการเห็นภาพไม่ชัดบ้าง เบลอบ้าง เกิดฟองอากาศบ้าง ขับแล้วปวดหัว จนถึงรู้สึกร้อนจนแสบผิว ส่งผลให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ สุดท้ายแล้วเรื่องจะจบก็คือต้องติดตั้งฟิล์มกรองแสงใหม่นั่นละ
เพื่อไม่ให้ชีวิตต้องเสี่ยงอุบัติเหตุ แถมวุ่นวายใจ สำหรับใครที่กำลังจะออกรถใหม่ ได้ออปชันพ่วงจากเซลล์ หรือกำลังคิดที่จะเปลี่ยนฟิล์มกรองแสง เราขอแนะนำว่า ถ้าจะติดตั้งฟิล์มกรองแสงก็ควรเลือกที่มีคุณภาพดีๆ ยี่ห้อเชื่อถือได้ไปเลยดีกว่า ไม่เน้นราคา เพราะเดี๋ยวนี้เราแทบจะใช้ชีวิตกันอยู่ในรถกันเกือบ ⅓ เจอทั้งสภาพอากาศและแสงแดดที่มีแต่จะร้อนขึ้น ถ้าไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นหมูอบตัวน้อยๆ การเลือกติดตั้งฟิล์มกรองแสงนี่ละสำคัญ ไม่ใช่อะไรก็ได้อีกต่อไป
แล้วจะมีวิธีเลือกฟิล์มกรองแสงอย่างไรให้ (รถ) สวย จบ ครบจบแบบไม่เสี่ยงเจ็บ พร้อมแล้วล้อมวงเข้ามาจะเล่าให้ฟัง
ก่อนจะเลือกฟิล์มกรองแสงมาใช้งานให้ถูกใจ และได้ประสิทธิภาพเต็มที่ เราก็ต้องขอพาทุกคนมาทำความรู้จักปัจจัยที่ทำให้ฟิล์มกรองแสงที่ใช้กลายเป็นฟิล์มกรองแสงที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งจะเกิดจาก 3 ปัจจัยประกอบกันได้แก่แผ่นฟิล์ม ฝีมือช่าง และกาวที่ใช้
1. คุณภาพแผ่นฟิล์ม
ฟิล์มกรองแสงที่ใช้จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามวัสดุที่นำมาเคลือบบนแผ่นฟิล์ม คือฟิล์มกรองแสงที่มีโลหะ (Metallic Sputtering Film) เป็นส่วนประกอบ ฟิล์มเซรามิก Ceramic Film (ข้อนี้ต้องระวัง ถ้าเซรามิกแท้จะดำนอกสว่างใน กันความร้อนดี แต่ถ้าเซรามิกเทียมจะดำนอกดำใน กันความร้อนได้เพียง 1-2ปี) และฟิล์มย้อมสี (Dyed Film) ซึ่งในที่นี้เราจะขอพูดถึงฟิล์มย้อมสีที่มีราคาถูก เพราะมีคุณสมบัติเพียงแค่การลดแสงสว่างที่ผ่านมาทางกระจกเข้าเท่านั้น ไม่มีคุณสมบัติกันความร้อน หรือใช้งานได้ดีเพียง 1 – 2 ปีแรก หลังจากนั้นก็จะเสื่อมสภาพ ต่างจากฟิล์มกรองแสงที่มีโลหะเป็นส่วนประกอบหรือฟิล์มเซรามิกแท้ สำหรับเรื่องการใช้งาน ฟิล์มย้อมสี พอใช้ไปสักระยะ ก็จะเริ่มเป็นเปลี่ยนสีม่วง ส่งผลให้ทัศนวิสัยการขับขี่รถยนต์ผิดเพี้ยนเป็นอันตราย
2. ช่างฝีมือไม่ชำนาญ
การติดตั้งฟิล์มกรองแสง เปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ต้องอาศัยฝีมือ และความใจเย็นของช่างในการติดตั้ง เพราะถ้าหากช่างที่ทำการติดตั้งไม่มีความรู้ในตัวสินค้าแล้ว ก็จะทำให้การติดตั้งฟิล์มกรองแสงทำได้ไม่เต็มที่ เช่น เวลาการกรีดฟิล์มที่กระจกก็จะทำให้ฟิล์มไม่เสมอกัน โดยเฉพาะตรงขอบกระจกเกิดความเสียหาย หรือการติดตั้งที่ไม่ชำนาญ อาจทำให้ฟิล์มย่น เป็นคลื่น หรือมีเม็ดฝุ่นสิ่งสกปรกปะปนเกินมาตรฐานที่ยอมรับได้ ส่งผลให้มีปัญหาหลังการใช้งาน
3. คุณภาพกาว
กาวก็เป็นส่วนสำคัญสำหรับการติดตั้งฟิล์มกรองแสง ใช้เพื่อให้ฟิล์มเกิดการยึดเกาะ โดยกาวที่ใช้นอกจากจะต้องบาง ใส และเหนียวอย่างพอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป (ฟิล์มที่มีชั้นกาวหนาเกินไป จะทำให้ฟิล์มมีลักษณะเบลอ ไม่คมชัด แต่ถ้าบางไปก็จะทำให้ฟิล์มลอกล่อนง่าย แล้วยังต้องทนต่อความร้อนหรือความเย็นของกระจกได้ ไม่ทำให้ฟิล์มกรองแสงเกิดอาการฟิล์มเบลอ ภาพบิดเบือน พอง ลอก ล่อน หรือเป็นฟองอากาศ
เมื่อการเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงไม่ใช่อะไรก็ได้ทุกอย่างต้องประกอบกัน ฟิล์มดีแต่ช่างฝีมือไม่ดีก็ทำให้เกิดปัญหาได้ หรือถ้าช่างดีแต่ฟิล์มไม่ได้คุณภาพ ก็ทำให้ประสิทธิภาพของฟิล์มกรองแสงทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เจ้าของรถเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุด้วย
รู้จักกับปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ฟิล์มกรองแสงไม่ได้คุณภาพแล้ว ถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหาปวดหัว เสียเงิน เสียเวลา ออกรถใหม่ทั้งทีก็ควรจะเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือไปเลยทีเดียว แล้วจะเลือกติดฟิล์มกรองแสงอย่างไรให้จบแบบไม่เจ็บ คำตอบก็คือ เลือกเจาะจงติดฟิล์ม Lamina ด้วย 5 เหตุผลดังนี้
1. คุณภาพ แหล่งที่มาต้องเชื่อถือได้ ฟิล์ม Lamina เป็นสินค้าจากโรงงานผู้ผลิตฟิล์ม CP Flims Inc.,สหรัฐอเมริกา โรงงานผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตฟิล์มกว่า 60 ปี ที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 พร้อมมาตรฐานสากลทั่วโลก และรางวัลการันตีคุรภาพมากมาย ได้รับหนังสือแต่งตั้งตัวแทนอย่างเป็นทางการจากโรงงานผู้ผลิต ทำให้มั่นใจได้ว่าได้สินค้าที่มีคุณภาพ
2. ราคาและบริการมีมาตรฐาน สินค้าของ Lamina จะจัดจำหน่ายผ่านศูนย์ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการติดตั้งอย่างเป็นทางการ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าราคาและบริการจะเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกที่ มีการบริการหลังการขาย มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา ดูแลคุณลูกค้าด้วยความจริงใจ และยังมีสินค้าหลากหลายรุ่นให้เลือกติดตั้งตามความต้องการของเจ้าของรถด้วย
3. ช่างได้รับการอบรม Lamina มีการจัดอบรมและเทรนนิ่ง ช่างเป็นประจำเพื่อให้ช่างมีความเชี่ยวชาญ รวมถึงการพัฒนาฝีมือการติดตั้งให้ชำนาญเป็นมาตรฐานเดียวกัน
4. มีตราสินค้า (โลโก้) และรุ่นฟิล์ม ชัดเจนบนแผ่นฟิล์ม เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของรถว่า เป็นรุ่นฟิล์มที่ถูกต้อง ตามที่ลูกค้าเลือกติดตั้ง และเป็นของแท้มาตรฐานจากบริษัทผู้ผลิต
5. มีใบรับประกันสินค้า ฟิล์มกรองแสง Lamina ทุกรุ่น จะมีการรับประกันสูงสุด7 ปี *(ยกเว้น L60Max รับประกัน 5 ปี) ภายในระยะเวลารับประกัน หากพบปัญหาสามารถติดต่อศูนย์ตัวแทนผู้ติดตั้งฟิล์ม หรือโทรสอบถามได้ที่ lamina call center 02-422-2345
หมายเหตุ* กรุณาตรวจสอบข้อมูลการรับประกันอีกครั้ง ณ ศูนย์ตัวแทนจำหน่าย Lamina ที่ได้รับการแต่งตั้ง
มาถึงส่วนสุดท้ายสำหรับการเลือกติดตั้งฟิล์มกรองแสงก็คือ การเลือกเบอร์ฟิล์ม เรามักจะได้ยินว่าเลือก เบอร์นี้สิ ถ้าอยากได้ฟิล์มดำเข้ม หรือเลือกเบอร์นี้ ถ้าอยากได้ฟิล์มสว่างขับง่าย แต่ก็ต้องยอมรับว่า บางทีเราก็มองไม่เห็นภาพว่า สีฟิล์มเฉดนี้จะเข้ากับรถของเราหรือไม่ ถึงหัวใจหลักของฟิล์มกรองแสงจะเกิดขึ้นมาเพื่อกันความร้อน ช่วยให้รถเย็นขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้ ฟิล์มกรองแสงได้กลายเป็นอีกไอเทมที่ช่วยทำให้รถดูหล่อ ดูเท่ขึ้นได้
ซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่ารถของเราควรใช้เบอร์ฟิล์มแบบไหน รุ่นไหน เฉดไหน ถึงจะหล่อที่เว็บไซต์ Lamina ก็มีฟีเจอร์สุดว้าว!! ที่ให้เราเข้าไปจำลองเบอร์ฟิล์มได้ https://www.laminafilms.com/simulator.php



ขอบคุณบทความจาก : https://pantip.com/topic/39067228