ช่วงนี้มีบทความเกี่ยวกับฤดูฝน ให้อ่านกันเยอะเลยนะครับ เพราะว่าฝนนั้น เป็นตัวการที่ทำให้สีรถเกิดความเสียหายได้ง่าย ทั้งสิ่งสกปรกที่ติดมากับน้ำฝน ละอองน้ำจากพื้นถนน ล้วนเป็นสาเหตุให้ตัวถังเกิดสนิมได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย
สิ่งเหล่านี้ ไม่ควรทำหลังขับรถลุยฝนมา
1.เช็ดรถด้วยผ้าแห้งหลังจากรถพึ่งเปียกฝนมา
หลังจากที่ขับรถฝ่าสายฝนมาใหม่ๆ หลายคนคงอยากให้รถกลับมาแห้งเหมือนเดิมโดยเร็ว แต่การใช้ผ้าแห้งเช็ดบนตัวถังที่เปียกในทันทีนั้น จะทำให้รถอันเป้นที่รักของเราเป็นรอยได้ เนื่องจากน้ำมีสิ่งสกปรกเกาะตัวอยู่ เช่น ดิน, ทราย, เศษไม้ ใบไม้ เป็นต้น หากเช็ดทันที อาจทำให้ สื่งเหล่านี้ขุดกับสีรถของเรา ทางที่ดีควรล้างรถไปเลยจะดีกว่า หรืออย่างน้อยก็ใช้น้ำแรงดันสูงฉีดสิ่งสกปรกเหล่านั้นให้หลุดออกไปเสียก่อน
2.รถเปียกฝนหลังฝนตกแล้วจอดรถกลางแดดทันที
สภาพอากาศในบ้านเรา เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก หลังจากฝนตกใหม่ๆ ไม่ควรจอดรถไว้กลางแดดทันทีหากเลี่ยงได้ เพราะจะทำให้คราบน้ำฝนเหล่านั้นกลายเป็นรอยฝังแน่น ส่งผลต่อชั้นสีรถได้
3.ไม่ล้างรถเลย ยังไงๆ ฝนก็ตก
หลายคนอาจคิดว่าหน้าฝนไม่จำเป็นต้องล้างรถหรอก เดี๋ยวฝนก็ตกอีกอยู่ดี ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดนะครับ เพราะการล้างรถจะช่วยป้องกันคราบฝังแน่นที่เกิดบนผิวรถ ซึ่งอาจทำให้สีรถเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะคราบมูลนกที่ทำให้เกิดรอยด่าง ซึ่งจะไหลย้อยไปตามจุดต่างๆเมื่อโดนฝน ดังนั้นจึงควรล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าฝนก็ตามนะครับ
4.สีถลอกต้องรีบทำสี
หากผิวรถมีรอยถลอกชนิดเปิดหน้าเหล็กด้านในให้เห็น แบบนี้ควรรีบทำสีทันที เพราะคราบน้ำจะไปสะสมที่เนื้อเหล็กโดยตรง หากใช้ไปนานๆ อาจทำให้สีบริเวณปูด และลอกออกเป็นแผ่นๆได้นะครับ