ประวัติของ Porsche
ปอร์เช่ (Porsche) ก่อตั้งเมื่อปี 1931 มีชื่อบริษัทว่า DR.ING.H.V. PORSCHE AG ที่เยอรมนี โดย ดร.เฟร์ดินันด์ โพร์เช (DR.FEREINAND PORSCHE) วิศวกรชาวออสเตรีย ช่วงแรกเป็นแค่บริษัทผู้พัฒนาเครื่องยนต์และให้คำปรึกษา ยังไม่มีการผลิตรถยนต์ภายใต้ชื่อของตัวเอง แต่ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากทางรัฐบาลเยอรมัน ให้ทางบริษัทผลิตรถยนต์ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน คันแรกที่ประสบความสำเร็จมีชื่อว่า Volkswagen Beetle ซึ่งเป็นรถต้นแบบของ Porsche 64

ต่อมาใน Porsche ได้ให้ความสนใจในด้านอุตสาหกรรมรถแข่ง จึงได้ผลิต Porsche 550 Spyder ขึ้น และประสบความสำเร็จ จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนได้เปิดตัวรถสปอร์ต 911 ในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นรถที่สร้างชื่อเสียงให้ Porsche เป็นอย่างมาก
รถยนต์คันแรกของ Porsche

เมื่อปี 1948 รถคันแรกสุดที่มีผลิตอย่างเป็นทางการ มีชื่อว่า Porsche 356 Roadster รถสปอร์ตในฝันของ Ferry Porsche ที่กลายมาเป็นความจริง และในวันนั้นคือวันที่แบรนด์รถยนต์ Porsche ได้ถือกำเนิดขึ้นเช่นเดียวกัน
สัญลักษณ์ของ Porsche

เป็นตราประจำเมืองชตุทท์การ์ท (Stuttgart) ในเยอรมนี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตรถโพร์เช
ส่วนโล่ขนาดเล็กที่อยู่ตรงกลางชั้นใน มีรูปม้าสีดำซึ่งเปรียบเสมือนความสง่างาม ปราดเปรียว และรวดเร็ว ซึ่งตรงกับสัญลักษณ์ประจำเมืองชตุทท์การ์ท และเขากวางและสีดำ-แดงลายทาง ที่อยู่รอบม้า เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของแคว้น วูทเทมบวร์ก บาเดน (WUTTEMBURG BADEN)ในอดีต Stuttgart คือเมืองหลวง ก่อนจะถูกรวมประเทศเป็นเยอรมนีในภายหลัง
รถยนต์ของ Porsche รุ่นต่าง ๆ ที่น่าสนใจ

ตัวรถต่ำกว่าและยาวกว่าเดิม เบาขึ้นและรวดเร็วมากขึ้น ตัวรถมีความกว้างขึ้น และล้อมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่

ปรับการออกแบบให้สวยงาม ล้ำยุคมากขึ้น ทรงและตำแหน่งของเบาะเสริมความรู้สึกสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้านตำแหน่งอุปกรณ์การใช้งานต่างๆ ถูกย่อส่วนสาระสำคัญไว้บนพวงมาลัย เพื่อความสะดวกขึ้น

ตัวรถต่ำกว่าและยาวกว่าเดิม เบาขึ้นและรวดเร็วมากขึ้น และถือได้ว่าดีที่สุดในคลาสรถแบบเดียวกัน ตัวรถของรถสปอร์ตสองที่นั่งใหม่ล่าสุดคันนี้ได้รับการออกแบบโดยเน้นเรื่องของนวัตกรรมการใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา

สร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ตั้งแต่หัวจรดท้าย ภายในห้องโดยสาร ออกแบบโอบล้อมผู้ขับ ทรงและตำแหน่งของเบาะเสริมความรู้สึกสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ถูกย่อส่วนสาระสำคัญไว้บนพวงมาลัย เพื่อความสะดวกขึ้น

มาพร้อมขุมพลังที่ปรับปรุงใหม่ให้มีความแรงขึ้นพร้อมด้วยตัว Bi-Turbo Charging มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 370 แรงม้า แต่มาพร้อมกับอัตราสิ้นเปลืองที่ลดลง

ออกแบบภายในห้องโดยสารด้วยวัสดุที่มีคุณภาพสูง นอกจากวัสดุห่อหุ้มแล้ว ยังเสริมความแข็งแกร่งด้วยความมันวาวของโลหะที่อยู่บริเวณพวงมาลัย ฐานเกียร์ หัวเกียร์ ตลอดจนกรอบของช่องเกียร์และกรอบของเข็มทิศ เบาะนั่งออกแบบสไตล์รถแข่ง มีลักษณะโอบกระชับตัว
Credit : ขอบคุณข้อมูลจาก https://clickacars.com/